ตั้งแต่เห็น The Sims ภาคใหม่ออกมา ความคิดแรกที่คิดคือ “เป็นภาคเสริมตัวใหม่” แต่หารู้ไม่ว่ามัน The Sims ตัวใหม่นั้นเป็นโหมดเนื้อเรื่อง ซึ่งมีชื่อว่า The Sims Life Stories ที่เปิดโอกาสให้เราได้แง้มดูความเป็นไปของชาวซิมซ์หลังจากที่ปล่อยให้มัน อิสระโดยเราควบคุมมันมามากพอแล้ว นอกจากนั้น The Sims Life Stories ยังสนับสนุนกับเครื่องคอมพิวเตอร์ระดับปานกลาง แม้แต่ Notebook ยังสามารถเล่นได้เลย แต่ก่อน Notebook จะเล่นเกม The Sims 2 ไม่ได้เลย เพราะว่ากินทรัพยากรมากๆ
The Sims Life Stories ได้ใช้เอนจิ้นตัวเดียวกับ The Sims 2 ทั้งหมด ตอนแรกจะให้เราเลือกระหว่างเล่นโหมดเนื้อเรื่องที่ให้เราได้เลือกเล่นเพียง 2 ครอบครัวพร้อมกับชีวิตที่แตกต่างกันไปกับโหมดอิสระที่เหมือนๆกับ The Sims 2 ภาคหลักที่ดำเนินชีวิตโดยเราเอง ในโหมดเนื้อเรื่องถือว่าแปลกใจและน่าติดตามอยู่ตลอดเวลาแถมฆ่าเวลาเป็นอย่าง มาก 2 ครอบครัวนี้ เป็นเนื้อเรื่องเกี่ยวกับสาวน้อยที่โดนไล่ออกจากงานและมาอยู่กับป้าในเมือง ซิมซิตี้และแถมระหว่างนั้นเธอก็เริ่มชอบผู้ชายคนหนึ่งที่มาเยี่ยมบ้านของเธอ และแถมเจอกับแฟนเก่าที่มาหาเธออีกด้วย ทำให้เธอต้องสับรางรถไฟอย่างบ้าคลั่ง และอีกครอบครัวหนึ่งเป็นเนื้อเรื่องเกี่ยวกับชายคนหนึ่งที่มุ่งมานะกับการทำ งานและมีแฟนสาวที่แสนขี้เกียจและอยากจะแต่งงานกับเขาให้เร็วที่สุด ภายในเกมเราจะต้องทำการกระทำให้ตรงกับเป้าหมายของซิมซ์ที่คาดการณ์เอาไว้ อย่างเช่น นางเอกคนนี้อยากจูบเบาๆกับคนที่แอบชอบ หรือ อยากจี๊กจี้แฟนของเธอ เป็นต้น การกระทำลักษณะแบบนี้จะพาเราเข้าไปสู่เนื้อเรื่องต่อไปอีกทั้งได้รับคะแนน เพื่อปลดล๊อคสิ่งของแปลกๆใหม่ๆไว้ประดับบ้าน ของพวกนี้จะแสดงก็ต่อเมื่อชาวซิมซ์ได้มอบของขวัญให้แก่เรา ทั้งนี้ยังสามารถทำคะแนนในด้านอื่นๆเพื่อทำแต้มโดยทำกิจกรรมที่ซิมซ์ได้คาด หวังไว้ ของปลดล๊อคสามารถใช้ได้เพียง 1 ครั้ง และในครั้งต่อไปเราต้องเสียเงินในเกมเพื่อซื้อของชิ้นนี้ ที่น่าสนใจคือพวกสิ่งของที่ถูกปลดล๊อคมานั้นสามารถนำมาใช้ในโหมดอิสระได้ ด้วย นอกจากมีรางวัลในเนื้อเรื่องแล้ว ก็มี รางวัลแห่งอาชีพที่ประสบความสำเร็จกับการทำอาชีพของซิมซ์ , รางวัลปณิธานที่ความคาดหวังในตัวของซิมซ์มีผลสำเร็จ เป็นต้น
โดย รวมแล้วการที่ทำเนื้อเรื่องออกมาก็น่าสนใจดีแถมไม่น่าเบื่อและเนื้อเรื่อง มันจะดำเนินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุดและมันให้เราเล่นไปเรื่อยๆจนกว่า เราจะเบื่อ เช่นนางเอกได้หลงรักและรักกันในที่สุดแล้วต่อมาก็อยากมีลูก หลังจากนั้นอายุของเขาก็เริ่มชราและเด็กน้อยก็กลับกลายเป็นวัยรุ่น พอเป็นผู้ใหญ่แล้ว พวกเขาก็เสียชีวิตในโลกนี้ไปแล้ว การเดาเนื้อเรื่องมันไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก และมันได้ใส่รายละเอียดของเนื้อเรื่องได้ออกมาน่าสนใจดี แต่เสียตรงที่รายละเอียดของความคาดหวังหลักของซิมซ์ที่บอกมานิดๆหน่อยในบาง ครั้งบางคราว ยกตัวอย่างเช่น “ได้เวลาจูบเขาแล้ว” พอเวลาจะจูบเราต้องเลือกว่ามันต้องการจูบประเภทไหน มีที้ง จูบเบาๆ , เล้าโลม , โรแมนติค เป็นต้น หรือ แต่ในบางครั้งมันได้ใบ้กับประเภทที่ชาวซิมซ์ต้องการไว้ด้วย ส่วนความอิสระของโหมดเนื้อเรื่องนั้นก็ปล่อยให้เราอิสระอยู่ตลอดแต่ถ้าเรา ไม่ทำตามที่เขาคาดหวังไว้ เกมก็จะไม่ดำเนินต่อไป
ใน โหมดอิสระนั้นก็ถอดแบบมาจาก The Sims 2 ภาคหลักทั้งหมด แต่ว่าพื้นที่อาณาเขตของหมู่บ้านถูกย่อเล็กลง เปิดโอกาสให้เราได้เลือกบ้านเพียงไม่กี่หลังในราคาที่มีอยู่ แรกเริ่มเราต้องสร้างบ้านเองแน่นอน เพราะบ้านบางหลังมีราคาแพงกว่าชาวซิมซ์ที่มีเงินติตตั้งอยู่ตั้งแต่ตอนแรก รวมถึง การสร้างตัวละครที่มีชุดเสื้อผ้าเดิมๆ ,เฟอร์นิเจอร์ที่มีจำนวนที่พอดี ส่วนมากล้วนมาจากภาคหลักของ The Sims 2 เสียมากกว่า ลูกเล่นในเกมอย่าง ถูกมนุษย์ต่างดาวจับตัว , ป่วยแบบไร้สาเหตุ , จับกิ๊กได้ขณะไปเที่ยว ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกับภาคหลัก ให้คิดเสียว่ามันเป็นภาคที่เพิ่มโหมดเนื้อเรื่องเท่านั้น
การที่ได้ เล่น The Sims Life Stories นั้นมันทำให้เรามีความกล้าอีกระดับหนึ่งเพื่อสร้างด้านลบของตัวเราเอง เช่นตบตีเพื่อนสาวเพื่อแย่งแฟนหนุ่มกลับคืนมา , ชกต่อยเพื่อน , ด่าทอสาปแช่ง หลังจากที่เราได้เล่นเพื่อไต่เต้าระดับความสัมพันธ์ไปเรื่อยๆ ส่วนการบริหารการบังคับตัวละครของเกมนี้ดูเหมือนยากขึ้นนิดนึงตอนที่เราต้อง การให้ คนทั้ง 2 คนสร้างความคาดหวังหลักให้ได้เพื่อก้าวสู่อีกระดับหนึ่ง
เห็น ได้ชัดเลยว่า The Sims Life Stories มันไม่กินทรัพยากรเครื่องของเรามาก เพราะว่าภายในเกมมันได้ปรับระบบกราฟิกและรายละเอียดอื่นๆให้อยู่ในระดับที่ พอดี แถมตอนเข้าเกมได้เปิดเป็นระบบ Window Mode เอาใจคนใช้ Notebook ที่ต้องการเล่นอินเตอร์เนทควบคู่ด้วยกัน ส่วนเครื่องที่คิดว่าซื้อเกมมา 5 เล่นได้ 1 เกมนั้น ขอการันตีเลยว่า The Sims Life Stories มันเป็นเกมที่ 2 ที่เล่นได้แบบกระตุกน้อยกว่า 4 เกมที่ต้องปรับกราฟิกระดับต่ำทุกอย่างเพื่อรับอรรถรสในการเล่นเกมน้อยลง แต่โดยภาพรวมมันก็เหมือนกับเอาของเก่ามายำใหม่เท่านั้นเอง
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment